แน่นอนครับ — ถ้าทำอย่างถูกวิธี หมอเนเลือกใช้รากผมจาก “บริเวณที่ไม่ตอบสนองต่อฮอร์โมน DHT” ซึ่งเป็นต้นเหตุของผมร่วงในเพศชาย เทคนิคปลูกผมของหมอเนไม่เพียงเน้นความแม่นยำ แต่ยังให้ความสำคัญกับการ “วางตำแหน่งกราฟต์ที่เหมาะสมกับธรรมชาติ” เพื่อให้รากผมใหม่เติบโตต่อเนื่องไปได้ตลอดชีวิต ปลูกแล้วอยู่จริง ดูดีจริง ไม่ใช่ขึ้นมาแล้วหลุดเหมือนเดิม

ไม่จำเป็นครับ หมอเนใช้เทคนิค Non-Shaven Hair Transplant ที่สามารถปลูกผมได้โดยไม่ต้องตัด ไม่ต้องเปลี่ยนทรง และไม่ต้องให้ใครรู้ว่าคุณมาปลูกผม ปลูกเช้า – เย็นออกไปกินข้าวกับเพื่อนต่อได้เลย แบบไม่มีใครสังเกต

ส่วนใหญ่คนไข้กลับไปใช้ชีวิตปกติได้ภายใน 1–2 วัน อาจมีอาการบวมบริเวณหน้าผากเล็กน้อย ซึ่งหายเองภายในไม่กี่วัน เทคนิคของหมอเนเน้นการปลูกอย่างนุ่มนวล ไม่กระทบเนื้อเยื่อมาก ทำให้ฟื้นตัวไว ไม่ต้องลางานยาว ไม่ต้องหยุดชีวิตเพื่อปลูกผม

เจ็บนิดเดียวครับ — เฉพาะตอนฉีดยาชา หลังจากนั้นจะรู้สึกผ่อนคลายเหมือนนอนดูซีรีส์ยาวๆ บางคนถึงขั้นหลับระหว่างทำเลยด้วยซ้ำ ทีมของหมอเนใส่ใจเรื่องความสบายตั้งแต่ต้นจนจบ ปลูกผมที่หมอเน เหมือนมานวดหน้า + เปลี่ยนลุคไปในตัว

หมอเนจะเลือกเทคนิคที่ “เหมาะกับคุณที่สุด” ไม่ใช่เทคนิคที่แพงที่สุด หรือโฆษณามากที่สุด เพราะแต่ละคนมีปัญหา และเป้าหมายต่างกัน

• FUE – พื้นฐาน, เจาะรากผมทีละกราฟต์
• DHI – ใช้ปากกา Implanter ลดการบาดเจ็บ
• Korean Hair Transplant – เทคนิคเฉพาะของหมอเน : เน้นแนวผมเสริมโครงหน้า ดูละมุน
• Long Hair DHI – ปลูกโดยไม่ต้องโกนผม

สิ่งที่คุณจะได้ : ผมที่ดูดี แบบคุณจริงๆ ไม่ใช่ตามแพตเทิร์นใคร

บางเคส หมออาจแนะนำให้ทาน Finasteride หรือ Minoxidil เพื่อช่วยรักษาผมเดิม และกระตุ้นผมใหม่ ซึ่งจะประเมินเป็นรายบุคคล ไม่ต้องกินตลอดชีวิต ไม่บังคับทุกคน และถ้าหมอเนไม่เห็นว่าจำเป็น… หมอจะไม่ให้กิน

ผมใหม่จะเริ่มขึ้นภายใน 3–4 เดือนแรก และเห็นผลชัดเจนเต็มที่ในช่วง 9–12 เดือน แต่สิ่งที่พิเศษคือ คุณจะได้เห็นภาพแนวผมใหม่ก่อนปลูกจริง ด้วยเทคโนโลยี 3D Simulation

เห็นก่อน → วางแผนก่อน → ปลูกทีเดียวจบ ไม่ต้องลุ้นว่าผมจะขึ้นแบบไหน เพราะเราคิดเผื่อให้คุณแล้ว